กระเป๋า Ethereum ยุค 2017 เทขาย ETH ทั้งหมด กวาดกำไรมหาศาล 8.66 ล้านดอลลาร์

กระเป๋า Ethereum ยุค 2017 เทขาย ETH ทั้งหมด กวาดกำไรมหาศาล 8.66 ล้านดอลลาร์

นักลงทุน Ethereum รายใหญ่ที่สะสม ETH มาตั้งแต่ปี 2017 ได้ตัดสินใจขายทิ้งทั้งหมด 5,001 ETH และทำกำไรได้มากถึง 8.66 ล้านดอลลาร์ หลังจากถือครองเหรียญเหล่านี้มานานกว่า 7 ปี

ข้อมูลจาก Lookonchain เผยว่ากระเป๋าดังกล่าวได้ทยอยขาย ETH ออกในช่วงต้นเดือนมีนาคมและได้ขายส่วนที่เหลือทั้งหมดในสัปดาห์นี้ การตัดสินใจขายทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในช่วงที่ราคา ETH ยังคงอยู่ในภาวะซบเซาและห่างไกลจากจุดสูงสุดตลอดกาล (ATH) ค่อนข้างมาก

กระเป๋า Ethereum ที่ขายเหรียญทั้งหมดนี้ได้ซื้อ ETH ตั้งแต่ปี 2017 ในราคาเพียง 277 ดอลลาร์ต่อเหรียญ โดยใช้เงินลงทุนทั้งสิ้น 1.38 ล้านดอลลาร์สำหรับ ETH จำนวน 5,001 เหรียญ ข้อมูลจาก Lookonchain แสดงให้เห็นว่านักลงทุนรายนี้ได้ถือครองเหรียญคริปโตชั้นนำนี้ทั้งหมดผ่านตลาดกระทิงหลายรอบโดยไม่ขายแม้แต่เหรียญเดียว

หากนักลงทุนรายนี้ตัดสินใจขายในช่วงที่ราคา ETH แตะจุดสูงสุดที่ 4,878 ดอลลาร์ในเดือนพฤศจิกายน 2021 จะสามารถทำกำไรได้มากถึง 23 ล้านดอลลาร์ แต่การที่เลือกขายในราคาปัจจุบันที่ประมาณ 1,882 ดอลลาร์ ก็ยังทำให้ได้รับผลตอบแทนกว่า 627% จากเงินลงทุนเริ่มต้น ซึ่งถือเป็นผลตอบแทนที่สูงมากเมื่อเทียบกับการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทอื่นๆ ในช่วงเวลาเดียวกัน

ข้อมูลจาก Arkham แพลตฟอร์มวิเคราะห์ข้อมูลคริปโต ยืนยันว่ากระเป๋าดังกล่าวได้ทยอยขาย ETH จำนวน 3,000 เหรียญในช่วงต้นเดือนมีนาคม และได้ขายส่วนที่เหลืออีก 2,001 เหรียญในช่วงต้นสัปดาห์นี้ การตัดสินใจขายทั้งหมดนี้อาจสะท้อนมุมมองของนักลงทุนรายนี้ต่อตลาด ETH ในอนาคตอันใกล้ หรืออาจเป็นการตัดสินใจเพื่อกระจายความเสี่ยงไปยังสินทรัพย์ประเภทอื่นๆ

ปัจจุบัน Ethereum ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลใหญ่อันดับ 2 ของโลกรองจาก Bitcoin กำลังซื้อขายอยู่ที่ราคาประมาณ 1,882 ดอลลาร์ โดยมีมูลค่าตลาดรวมสูงถึงหลายแสนล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม ราคาในปัจจุบันยังคงต่ำกว่าจุดสูงสุดตลอดกาลในปี 2021 ถึงเกือบ 60%

การเคลื่อนไหวของ Whale ในตลาด ETH และผลกระทบ

การขาย ETH จำนวนมากจากกระเป๋าที่ถือครองมานานเช่นนี้อาจส่งผลกระทบต่อราคาในตลาด โดยเฉพาะเมื่อเกิดขึ้นพร้อมกับการขายของ Crypto Whales รายอื่นๆ ข้อมูลจาก Lookonchain ยังเผยว่า นอกจากการขาย ETH แล้ว ยังมี Whale รายใหญ่หลายรายที่กำลังขาย AAVE ซึ่งเป็นโปรโตคอลการให้กู้ยืมแบบกระจายศูนย์ชั้นนำที่สร้างบน Ethereum อีกด้วย

หนึ่งใน Whale เหล่านี้ได้ฝาก AAVE จำนวน 30,001 เหรียญ มูลค่า 4.98 ล้านดอลลาร์ไปยัง FalconX ซึ่งเป็นโบรกเกอร์สินทรัพย์ดิจิทัลระดับพรีเมียม ในขณะที่อีกรายหนึ่งได้ฝาก AAVE จำนวน 11,018 เหรียญ มูลค่า 1.86 ล้านดอลลาร์ไปยัง OKX ซึ่งเป็นหนึ่งในเว็บเทรดคริปโตชั้นนำของโลก โดยขาดทุนถึง 293,000 ดอลลาร์ สะท้อนให้เห็นว่า Whale หลายรายอาจกำลังลดการถือครองสินทรัพย์ในระบบนิเวศ Ethereum

การเคลื่อนไหวของนักลงทุนรายใหญ่เหล่านี้มักถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดเนื่องจากสามารถส่งสัญญาณเกี่ยวกับทิศทางของตลาดในอนาคตได้ การที่ผู้ถือ ETH ระยะยาวหลายรายตัดสินใจขายพร้อมกัน อาจสะท้อนความไม่มั่นใจในการฟื้นตัวของราคาในระยะสั้น หรืออาจเป็นเพียงการทำกำไรหลังจากถือครองมาเป็นเวลานาน

ปัจจุบัน AAVE กำลังซื้อขายที่ราคาประมาณ 157.39 ดอลลาร์ โดยมีมูลค่าตลาดใหญ่เป็นอันดับ 52 ในตลาดคริปโต เหรียญดังกล่าวมีการปรับตัวลดลงกว่า 6% ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาและลดลงเกือบ 12% ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา ซึ่งสอดคล้องกับการเคลื่อนไหวของ Whale ที่กำลังขายสินทรัพย์ออกมา

ความสำคัญของ Web3 Wallet ในการจัดการสินทรัพย์ดิจิทัลระยะยาว

การสร้างผลกำไรมหาศาลจากการลงทุนใน ETH ระยะยาวเช่นนี้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการใช้กระเป๋าเงินดิจิทัล (Wallet) ที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการเก็บรักษาสินทรัพย์คริปโต ปัจจุบันมี Web3 Wallet หลากหลายรูปแบบที่ให้บริการฟังก์ชันครบวงจร ไม่เพียงแค่เก็บรักษาคริปโตเท่านั้น แต่ยังช่วยในการแลกเปลี่ยน ซื้อขาย และสร้างรายได้จากการ Stake อีกด้วย

Best Wallet เป็นตัวอย่างของ Web3 Wallet ที่ครบวงจรซึ่งได้รับความนิยมจากผู้ใช้งานกว่า 500,000 คนทั่วโลก ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยระดับสูงจาก Fireblocks ที่รวมการเข้ารหัสขั้นสูง การยืนยันตัวตนด้วยระบบไบโอเมตริก และการยืนยันตัวตนสองชั้น (2FA) ทำให้เหมาะสำหรับการเก็บรักษาสินทรัพย์มูลค่าสูงในระยะยาว เช่นเดียวกับกระเป๋า ETH ในกรณีนี้ที่ถือครองเหรียญมามูลค่าหลายล้านดอลลาร์เป็นเวลาหลายปี

สำหรับนักลงทุนระยะยาว Best Wallet มีข้อได้เปรียบเนื่องจากรองรับมากกว่า 60 บล็อกเชน ทำให้สามารถกระจายการลงทุนไปยังสินทรัพย์คริปโตหลากหลายประเภท เช่น Ethereum, Bitcoin, BNB Chain, Solana, Polygon และ Tron เพื่อลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการทำกำไร นอกจากนี้ยังมี DEX แบบ built-in ที่เชื่อมต่อกับตลาดซื้อขายคริปโตมากกว่า 200 แห่ง ช่วยให้นักลงทุนสามารถแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ได้ในราคาที่ดีที่สุด

สำหรับผู้ที่สนใจเริ่มต้นลงทุนในเหรียญคริปโตที่น่าลงทุนในระยะยาว สามารถดาวน์โหลด Best Wallet ได้ทั้งบน iOS และ Android และเริ่มใช้งานได้ทันทีโดยไม่ต้องทำ KYC เนื่องจากเป็นกระเป๋าเงินแบบ non-custodial ที่ให้ผู้ใช้มีสิทธิ์ควบคุม Private Key ของตนเองอย่างเต็มที่ ซึ่งนับเป็นปัจจัยสำคัญในการรักษาความปลอดภัยของสินทรัพย์ดิจิทัลในระยะยาว และอาจเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้กระเป๋า ETH ในกรณีนี้สามารถเก็บรักษาสินทรัพย์มูลค่าสูงได้อย่างปลอดภัยตลอดระยะเวลา 7 ปี

Exit mobile version