การเคลื่อนไหวของราคา Dogecoin ($DOGE) เมื่อวิเคราะห์ผ่าน Bollinger Bands indicator แสดงให้เห็นว่าเหรียญมีมตัวนี้กำลังอยู่ในจุดสำคัญที่ต้องจับตามอง เพราะความเคลื่อนไหวถัดไปอาจเป็นการทะยานขึ้นอย่างรวดเร็ว หรืออาจจะเกิดการปรับตัวลดลงอีกครั้งก็เป็นได้
การวิเคราะห์ทางเทคนิคชี้ว่าการตอบสนองของราคา DOGE ต่อ Bollinger Bands มีแนวโน้มเป็นสัญญาณบวก อย่างไรก็ตามยังมีปัจจัยเสี่ยงที่นักลงทุนต้องระมัดระวังอย่างใกล้ชิดอยู่
ราคาเหรียญ Dogecoin บริเวณ Middle Bollinger Band
นักวิเคราะห์คริปโต SwallowAcademy ได้ชี้ให้เห็นถึงการเคลื่อนไหวของราคา DOGE บนแพลตฟอร์ม TradingView โดยตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา DOGE มีการซื้อขายอยู่ภายในกรอบของ Bollinger Bands แม้จะเผชิญความผันผวนในตลาดอยู่บ้างก็ตาม
ในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ ราคาเคยดิ่งลงต่ำกว่าขอบล่างของ Bollinger Bands เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ โดยมีไส้เทียนยาวที่แสดงถึงแรงขายสูง แต่หลังจากนั้น ราคาก็สามารถฟื้นตัวกลับขึ้นมาอยู่ภายในกรอบ Bollinger Bands ได้อีกครั้ง
ตามปกติ เมื่อราคาลงต่ำกว่าขอบล่างของ Bollinger Bands มักจะเกิดแรงซื้อกลับขึ้นมาสู่เส้นกลางของ Bollinger Bands ซึ่ง DOGE ก็ได้แสดงพฤติกรรมลักษณะนี้
อย่างไรก็ตาม แทนที่จะทะยานขึ้นต่อไปยังขอบบนของ Bollinger Bands ตามที่มักเกิดในรอบก่อนหน้า DOGE กลับเผชิญแรงต้านที่เส้นกลาง ซึ่งสะท้อนถึงแรงขายที่ยังคงมีอยู่ หรืออาจเป็นสัญญาณของแรงซื้อที่ยังไม่แข็งแกร่งพอ

พฤติกรรมเช่นนี้ถือว่าแตกต่างจากรอบการเคลื่อนไหวของ Dogecoin ก่อนหน้านี้ที่มักจะทะยานต่อไปยังขอบบนของ Bollinger Bands หลังจากแตะเส้นกลาง แต่ในครั้งนี้ DOGE ดูเหมือนว่าจะติดอยู่บริเวณเส้นกลาง โดยไม่สามารถทะลุผ่านได้อย่างชัดเจน
นักวิเคราะห์จึงระบุว่าจุดทดสอบที่สำคัญในขณะนี้คือ DOGE จะสามารถฝ่าแรงต้านนี้ไปได้หรือไม่ ซึ่งหากสำเร็จ อาจทำให้ราคาทะยานขึ้นได้อีกอย่างน้อย 15%
ระดับความเสี่ยงที่นักลงทุนฝั่งกระทิงต้องระวัง
กลยุทธ์เชิงบวกในตอนนี้สำหรับ DOGE คือการที่ราคาจะต้องทะลุผ่านเส้นกลาง Bollinger Bands และเคลื่อนไปยังขอบบน หาก DOGE สามารถยืนเหนือเส้นกลาง Bollinger Bands ได้อย่างมั่นคง แนวโน้มขาขึ้นยังคงมีโอกาสเกิดขึ้น
และเมื่อทะลุแรงต้านนี้ไปได้ ราคาก็อาจกลับขึ้นไปเหนือระดับ $0.30 ซึ่งจะเปิดทางไปสู่เป้าหมายถัดไปที่ $0.40 และเป็นการยืนยันการกลับเข้าสู่แนวโน้มขาขึ้นในระยะยาว
อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงที่สำคัญที่ต้องจับตามองคือโอกาสที่ราคาอาจปรับตัวลงเพื่อทดสอบแนวรับที่สำคัญก่อนที่จะเกิดการทะยานขึ้น
นักวิเคราะห์ชี้ว่าหลังจากการทะยานอย่างรุนแรงของ DOGE ในเดือนพฤศจิกายน 2024 ยังไม่มีการทดสอบแนวต้านสำคัญในช่วงนั้นอย่างชัดเจน ซึ่งตามธรรมชาติของตลาดคริปโต แนวต้านที่ถูกข้ามไปมักจะถูก revisited หรือถูกทดสอบอีกครั้ง
หากเกิดสถานการณ์ดังกล่าว ราคาของ Dogecoin อาจปรับลดลงไปถึงระดับ $0.20 อีกครั้ง แต่หากการทดสอบแนวรับนี้สำเร็จ ก็อาจเป็นรากฐานสำคัญสำหรับการทะยานขึ้นไปยังเป้าหมายที่ราคา $0.40
ณ เวลาที่รายงานนี้ DOGE ซื้อขายอยู่ที่ราคา $0.2440

เหรียญมีมอื่นที่น่าจับตามองในขณะนี้
นอกจาก Memecoin ที่ประสบความสำเร็จอย่าง Dogecoin แล้ว ก็ยังมีเหรียญมีมอื่นๆ อีกนับไม่ถ้วนในตลาด แต่การจะเลือกลงทุนในตลาดมีมนั้นมีความเสี่ยงสูง เนื่องจากมีความผันผวนและมีสแกมเมอร์อยู่ทั่ว ดังนั้นจำเป็นต้องเลือกทีมผู้พัฒนาที่น่าเชื่อถือ และที่สำคัญคือการเลือกเหรียญที่มีจุดเด่นและมีโอกาสเติบโตในระยะยาว
แม้ DOGE จะไม่ใช่เหรียญ utility ที่มีประโยชน์ใช้สอยใดๆ จริงจัง แต่อย่างที่กล่าวไปแล้วว่าปัจจุบันการออกเหรียญมีมเป็นเรื่องง่ายที่ทำกันเกลื่อนตลาด ดังนั้นเราแนะนำให้เลือกเหรียญที่มีการใช้งานจริง ดีกว่าเหรียญที่แค่เกาะกระแสจะดีกว่า เพราะมีโอกาสเติบโตสูงกว่าในระยะยาว ยกตัวอย่างเช่น:
MIND of Pepe ($MIND) ซึ่งเป็นเหรียญมีมกบที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Pepe the Frog โดยเหรียญมีมรุ่นก่อนหน้าอย่าง $PEPE ประสบความสำเร็จอย่างมาก มีมูลค่าตลาดราว 4 พันล้านดอลล่าร์ แต่คล้ายกับ DOGE ตรงที่ไม่ได้มีฟังก์ชันการใช้งานใดแบบจริงจัง ในขณะที่ MIND ออกแบบมาเพื่อให้ผู้ถือเหรียญสามารถเข้าถึง AI Agent ผ่าน X (Twitter) เพื่อทราบเทรนด์ตลาดก่อนใคร
AI Agent นี้สามารถพัฒนาตัวเองขึ้นเรื่อยๆ และยังมีบล็อกเชนและ wallet เป็นของตัวเอง รวมถึงสามารถเข้าถึง dApps และสร้างโทเคนได้ด้วย หมายความว่าผู้ถือเหรียญจะสามารถเข้าถึงโปรเจกต์ใหม่ๆ เหล่านี้ได้ก่อนใคร
หลังเปิด presale ได้เพียง 1 เดือน MIND of Pepe สามารถระดมทุนได้แล้วราว 7 ล้านดอลล่าร์ ด้วยราคาเปิดพรีเซลเพียง $0.003101
อีกโปรเจกต์ที่น่าสนใจคือ Solaxy ($SOLX) ซึ่งเป็นโซลูชัน Layer-2 ของ Solana
เป็นที่รู้กันว่าแม้ Solana จะเป็นบล็อกเชนชั้นนำเนื่องจากมีค่าธรรมเนียมที่ต่ำ และสามารถประมวลผลธุรกรรมได้อย่างรวดเร็ว แต่ปัจจุบันก็ประสบกับปัญหาเครือข่ายขัดข้อง
Solaxy ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวด้วยเทคโนโลยี Rollup ของ Layer-2 เพื่อทำการประมวลผลธุรกรรมนอกเครือข่ายหลัก ก่อนที่จะนำมาสรุปบน Mainnet โดยได้รับความสนใจอย่างล้นหลามในช่วงพรีเซล สามารถระดมทุนได้กว่า 23 ล้านดอลล่าร์แล้วในเวลาเพียง 2 เดือน