
Bitcoin (BTC) กำลังเข้าใกล้ระดับ 90,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ อย่างรวดเร็ว และนักวิเคราะห์กำลังจับตาดูข้อมูล on-chain เพื่อประเมินแนวต้านที่อาจเกิดขึ้นและคาดการณ์ทิศทางราคาในอนาคต
ตอนนี้ราคาเหรียญอยู่ที่ราว 88,700 ดอลลาร์ โดยเพิ่มขึ้นกว่า 1.7% ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ขณะที่ปริมาณการเทรดเพิ่มขึ้นกว่า 31% (CoinMarketCap)

แนวต้านที่ $90K อาจบรรลุได้ไม่ยากอย่างที่คิด
ในโพสต์ล่าสุดบน X แพลตฟอร์ม IntoTheBlock ได้วิเคราะห์แผนที่ต้นทุน (cost basis map) ของ BTC ซึ่งข้อมูลนี้เผยให้เห็นแนวโน้มของอุปทานที่ถูกซื้อในช่วงราคาต่าง ๆ ของ BTC โดยมีกราฟที่แสดงถึงปริมาณอุปทานในแต่ละช่วงราคา

จุดวงกลมในกราฟแสดงให้เห็นปริมาณอุปทานที่นักลงทุนซื้อในแต่ละช่วงราคา โดยขนาดของวงกลมจะสื่อถึงจำนวนอุปทานที่ถูกซื้อในช่วงราคานั้น ๆ
จากข้อมูลในกราฟ จะเห็นได้ว่ามีสองช่วงราคาที่มีอุปทานสะสมในปริมาณมาก ได้แก่ระหว่าง $82,266 – $84,830 และอีกช่วงคือ $95,300 – $97,971
ช่วงราคาชุดแรกอยู่ต่ำกว่าราคาปัจจุบัน ซึ่งหมายความว่าผู้ถือ Bitcoin ในช่วงราคานั้นกำลังทำกำไร ในขณะที่ช่วงที่สองอยู่สูงกว่าราคาปัจจุบัน ทำให้นักลงทุนในช่วงนั้นยังคงขาดทุนอยู่
สำหรับนักลงทุนแต่ละคน ระดับราคาที่พวกเขาเคยซื้อมีความสำคัญอย่างมาก ดังนั้นเมื่อราคากลับมาทดสอบระดับที่เคยซื้อไว้ ก็มีโอกาสที่พวกเขาจะมีปฏิกิริยาต่อการเปลี่ยนแปลงของราคา หากช่วงราคาที่มีนักลงทุนเพียงเล็กน้อยเข้าซื้อ การเคลื่อนไหวของราคาก็มักจะไม่รุนแรงมากนัก
แต่ถ้าช่วงราคานั้นมีนักลงทุนจำนวนมากซื้อไว้ในช่วงแคบ ๆ ก็อาจเกิดปฏิกิริยาที่ชัดเจนขึ้น โดยปฏิกิริยานั้นจะขึ้นอยู่กับทิศทางของการทดสอบราคาและความเชื่อมั่นของนักลงทุนในขณะนั้น
ตัวอย่างเช่น หากราคากลับมาทดสอบช่วงที่นักลงทุนเคยมีกำไร (retest from above) นักลงทุนอาจมองว่าเป็นโอกาสในการซื้อเพิ่ม เพราะเชื่อว่าช่วงราคานั้นจะสร้างกำไรได้อีกในอนาคต ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าความเชื่อมั่นในตลาดยังคงเป็นบวกอยู่หรือไม่
ในทางกลับกัน หากนักลงทุนที่ขาดทุนอยู่เห็นราคากลับมาทดสอบระดับเดิม พวกเขาอาจตัดสินใจขายเพราะกลัวว่าราคาอาจลดลงอีก
เนื่องจากผลกระทบเหล่านี้ ช่วงราคาที่มีต้นทุนสะสมอยู่ต่ำกว่าราคาปัจจุบันมักทำหน้าที่เป็นแนวรับ (support) ขณะที่ช่วงราคาที่สูงกว่าปัจจุบันจะเป็นแนวต้าน (resistance)
แนวต้านสำคัญที่ Bitcoin ต้องเผชิญ
ในขณะนี้ Bitcoin กำลังมุ่งหน้าไปยังสองช่วงราคาที่มีอุปทานสะสมอยู่น้อย ได้แก่ $87,501 – $90,065 และ $90,065 – $92,629 หากโมเมนตัมตลาดยังคงเป็นบวก มีความเป็นไปได้ที่ BTC จะผ่านช่วงเหล่านี้ไปได้อย่างง่ายดาย
ถัดจากนี้ ช่วงราคาที่ $92,629 – $95,300 มีอุปทานสะสมในระดับปานกลาง แต่ยังไม่ถือว่าเป็นอุปสรรคที่ใหญ่ อย่างไรก็ตาม ช่วงราคาที่สำคัญจริง ๆ จะอยู่ระหว่าง $95,300 – $97,971 ซึ่งมีอุปทานสะสมอยู่ในระดับสูง
ด้วยข้อมูลจาก on-chain และการวิเคราะห์ล่าสุด แนวโน้มของ BTC ในการแตะระดับ $90,000 ดูเหมือนจะเป็นไปได้ง่ายขึ้น หากโมเมนตัมตลาดยังคงแข็งแกร่ง นักลงทุนจึงควรจับตาดูพฤติกรรมของราคาและแนวต้านสำคัญในช่วงต่อไปอย่างใกล้ชิด
วิเคราะห์ BTC และ BTC Bull Token: โอกาสในการลงทุนที่น่าจับตามอง

ตลาดคริปโตเคอเรนซีมีความผันผวนสูง และการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยง นักลงทุนควรทำการวิจัยอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจลงทุน ทั้งนี้ หนึ่งในโครงการที่น่าสนใจคือ BTC Bull Token ซึ่งเป็น Meme Coin ที่เคลื่อนไหวตามราคา BTC
BTC Bull Token มีกลไกการให้รางวัลในรูปแบบ BTC จริง โทเค็นนี้ตั้งเป้าที่จะแจก BTC เมื่อราคาแตะระดับต่างๆ เช่น $150K, $200K และ $250K เป็นต้น
โครงการที่เกี่ยวกับบิทคอยน์นี้ได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั่วโลก และสามารถระดมทุนได้มากกว่า $4.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐแล้ว ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในโครงการและศักยภาพในการเติบโตของตลาดบิทคอยน์ในระยะยาว
สรุปแล้ว BTC กำลังเข้าใกล้ระดับ 90,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ และนักลงทุนควรติดตามการเคลื่อนไหวของราคาอย่างใกล้ชิด เนื่องจากอาจส่งผลต่อตลาดคริปโตโดยรวม และช่วงนี้อาจเป็นโอกาสในการลงทุนในเหรียญที่เชื่อมโยงกับการเติบโตในระยะยาวของ Bitcoin อย่าง BTC Bull Token
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรทำการวิจัยเพิ่มเติมและพิจารณาความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุนเสมอ
เรามุ่งมั่นในการสร้างความโปร่งใสอย่างเต็มที่กับผู้อ่านของเรา บางเนื้อหาในเว็บไซต์อาจมีลิงก์พันธมิตร ซึ่งเราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นจากความร่วมมือเหล่านี้
